เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และบริษัทในกลุ่ม คว้ารางวัล ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ประจำปี 2564 

จากความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน

พร้อมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลที่น่าจับตามอง

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT”  ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จล่าสุดของบริษัทฯและบริษัทในเครือ ด้วยการคว้ารางวัลและได้รับการยอมรับให้เป็นบริษัทที่น่าจับตามองจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรที่ปรึกษาทางธุรกิจและวิจัยระดับโลก ซึ่งได้ทำการประเมินบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกในทุกปี เพื่อสรรหาบริษัทที่มีความโดดเด่นในระดับภูมิภาคและในระดับสากล ในด้านความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรม การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม การให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า รวมถึงความสามารถในการพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร 

ด้วยกลยุทธ์ One Platform ของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ซึ่งรวมกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรมอันเป็นธุรกิจศักยภาพสูงเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้บริษัทฯมีความสามารถในการให้บริการที่ครบครันและแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ส่งผลให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในทุกสถานการณ์ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน จึงได้พิจารณาคัดเลือกให้กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้รับรางวัลประจำปี 2564 ดังต่อไปนี้ 

  • รางวัลผู้นำด้านกลยุทธ์การแข่งขันและนวัตกรรมในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย (Thailand Property Development Competitive Strategy & Innovation Leadership Award) สำหรับความเป็นเลิศด้านแผนกลยุทธ์และการบริหารเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นครบวงจร จึงทำให้สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและตรงโจทย์ และได้รับการพิจารณาว่าเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและโดดเด่นของประเทศไทย
  • รางวัลผู้นำด้านการพัฒนาคลังสินค้าครบวงจร (Thailand Integrated Warehouse Developer Company of the Year Award) ที่มอบให้แก่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) หรือ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนาสินค้าและบริการ พร้อมกับความสามารถในการดำเนินงานที่เป็นเลิศ จากประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจมาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบันมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 3 ล้านตารางเมตรในทำเลยุทธ์ศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทย ทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าของประเทศ
  • บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย และ เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ ได้รับการยอมรับให้เป็นบริษัทที่น่าจับตามอง (A Company to Watch) ในรายงาน Frost & Sullivan’s Thailand Data Center Colocation Services Market Report 2021 ด้วยความสามารถในการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลที่มีการเชื่อมต่ออย่างเป็นกลาง (Carrier-Neutral) จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกผู้ให้บริการโทรคมนาคม ทั้งยังได้รับมาตรฐานด้านการออกแบบในระดับสากลที่ครอบคลุมด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบโทรคมนาคมและการดำเนินงานที่สำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ตั้งอยู่ทำในทำเลยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าองค์กรชั้นนำระดับสากลทั้งในกลุ่มไฮเปอร์สเกลและรายย่อยสนใจเลือกใช้บริการ

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การได้รับรางวัลและการยอมรับจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เป็นส่วนหนึ่งที่ได้สะท้อนถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอสังหาฯครบวงจรของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ที่มีพอร์ตโฟลิโอครอบคลุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่หลากหลาย ทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจที่รออยู่ พร้อมศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย FPT จะยังมุ่งสร้างการเติบโตของบริษัทฯผ่านการดำเนินงานตามกลยุทธ์ One Platform และเดินหน้ายกระดับทั้งธุรกิจและอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนให้ความสำคัญกับการบริหารงานตามแนวทางความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่มีความเป็นเลิศ ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยมต่อไป”

“การที่บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย มีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในปี 2563 เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาฯแบบครบวงจรภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน โดยส่วนสำคัญของแผนกลยุทธ์ระยะยาว คือการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงาน อาทิ โครงการ Dashway หรือ นวัตกรรมระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ด้วยตนเองของระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า, แอพพลิเคชั่น Gold Care สำหรับให้บริการลูกค้ากลุ่มที่พักอาศัย ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับแจ้งและติดตามความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนและงานแจ้งซ่อมที่มีประสิทธิภาพ, แอพพลิเคชั่น Mitr App และ Fix it Now สำหรับให้บริการลูกค้าและผู้ประกอบการในศูนย์การค้าโดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลและเสริมประสิทธิภาพในการบริการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ FPT แตกต่างและโดดเด่นเหนือกว่าผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นในตลาด ประกอบกับกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ” นายวิเวช วันชีสวาร์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโส ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าว